Page 49 - แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโรงพยาบาลตราด พ.ศ.2561-2565
P. 49
แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโรงพยาบาลตราด (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕)
๘) สร้ำงสภำพแวดล้อมในครัวเรือน ชุมชน เอื้อต่อกำรมีสุขภำพดี อนำมัยสิ่งแวดล้อมและ
ภัยคุกคำมทำงสุขภำพได้รับกำรจัดกำรอย่ำงมีคุณภำพ
มาตรการและแนวทางปฏิบัติ
(๑) สร้างความเข้าใจให้ประชาชนในพื้นที่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งพัฒนา
ขีดความสามารถในการจัดการสุขภาพของตนเองตามความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนา
เมืองการค้าชายแดน เมืองเศรษฐกิจพิเศษ การเคลื่อนย้ายประชากรของประชาคมอาเซียนที่ก่อให้เกิดความ
เสี่ยงทางสุขภาพต่อชุมชน
(๒) สร้างจิตส านึกของประชาชนในพื้นที่ให้มีการคัดแยกขยะได้อย่างถูกต้อง ตั้งแต่ต้นทางถึง
ปลายทาง ส่งเสริมให้มีการจัดการระบบบ าบัดของเสียก่อนปล่อยลงสู่ชุมชน ลดมลพิษทางอากาศ เช่น การเผาขยะ
ฝุ่นละอองจากการพ่นยาฆ่าหญ้าหรือยาฆ่าแมลงในการประกอบอาชีพของเกษตรกร
(๓) มีธนาคารขยะเพื่อส่งเสริมให้มีการคัดแยกขยะให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ส่งเสริมให้มีการใช้
ภาชนะที่ย่อยสลายง่าย ท าจากวัตถุจากธรรมชาติที่มีอยู่ในพื้นที่ปลอดโฟม
(๔) ก าหนดข้อปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมของชุมชน โดยการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน
(๕) ส่งเสริมให้มีการจัดตู้ยาสามัญประจ าบ้านด้วยยาสมุนไพร
๙) ส่งเสริม รพ.สต. ร่วมมือกับหน่วยงำนภำคเกษตรกรรมและเกษตรกรในกำรตรวจสุขภำพ
ชำวสวนด้ำนปัญหำสำรเคมีตกค้ำงในกระแสเลือด และกำรร่วมส่งเสริมเกษตรกรสุขภำพดีกำรจัดหำชุด
ทดสอบอุปกรณ์ป้องกันตนเองจำกกำรท ำกำรเกษตร
มาตรการและแนวทางปฏิบัติ
(๑) ส่งเสริมให้ รพ.สต. มีการบูรณาการกับหน่วยงานภาคเกษตรกรรม ท้องถิ่น เพื่อคัดกรองหา
สารเคมีในกระแสเลือด
(๒) ส่งเสริมให้ อปท.จัดหาชุดทดสอบสารเคมีในกระแสเลือดเบื้องต้น เพื่อให้เกษตรกรสามารถ
เฝ้าระวังกันเอง
๑๐) เสริมสร้ำงขีดควำมสำมำรถประชำชนกลุ่มเสี่ยงให้พึ่งตนเองได้ กลุ่มป่วยสุขภำพดีขึ้น และมี
คุณภำพชีวิตดีขึ้น ปัญหำกำรเจ็บป่วยในโรคที่ส ำคัญที่ป้องกันได้ลดลงทุกหมู่บ้ำน
มาตรการและแนวทางปฏิบัติ
(๑) พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนกลุ่มเสี่ยงให้เสริมสร้างการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โดยเน้นการเปลี่ยนแปลงนิสัยสุขภาพ ที่เข้าถึงการดูแลในระดับบุคคลผ่านเครือข่ายของชุมชนอย่างจริงจัง
(๒) พัฒนาบุคคลต้นแบบให้ครอบคลุมทุกองค์กร การมีส่วนร่วมในพื้นที่ของ รพ.สต.ในการ
ผลักดันการจัดการสุขภาพเชิงพื้นที่ เพื่อมุ่งลดปัญหาสุขภาพโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
(๓) สร้างความฉลาดรู้ด้านสุขภาพแก่ประชาชนสู่การปฏิบัติ โดยการสร้างหมู่บ้านน าร่องและ
ชุมชนต้นแบบ เพื่อให้ชุมชนและ รพ.สต.มีส่วนร่วมในการสร้างสุขภาพที่ดีตั้งแต่ระดับบุคคลและครอบครัว
(๔) พัฒนาภาคีเครือข่ายการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังด้วยระบบพี่เลี้ยงเพื่อการลดกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรัง
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร หวาน มัน เค็ม ในประชาชนทุกกลุ่มวัย
(๕) สร้างระบบ Home Ward ให้ครบทุกชุมชน ภายใต้การมีส่วนร่วมการพัฒนาระบบการแพทย์
ปฐมภูมิให้ทุกโรงพยาบาลจัดบริการทางการแพทย์ในด้านโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และยกระดับ รพ.สต.ให้เป็นด่านหน้า
(Front Line) และการพัฒนาระบบดิจิตอล เพื่อดูแลผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในทุกครัวเรือน โดยประสาน
ความร่วมมือของเครือข่ายและจิตอาสา
หน้า 46