Page 25 - การดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจบนพื้นฐานของความรู้
P. 25
25
ป๎ญหานี้ผมคิดว่าควรให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมแก้ป๎ญหา โดยการสร้างอาคารจอดรถซึ่งต้องใช้เงินลงทุนมาก รพ.ส่วน
ใหญ่ไม่มีเงินมากพอ และรพ.สมควรใช้เงินเพื่อการพัฒนา การดูแลรักษาคนไข้มากกว่าและเก็บค่าบริการตามสมควร เนื่องจาก
เป็นป๎ญหาความเดือดร้อนของประชาชน
ป๎ญหาเรื่องหาห้องตรวจไม่พบก็เป็นป๎ญหาของรพ.ใหญ่เช่นกัน เพราะห้องตรวจแต่ละแผนกอยู่ไกลกันมาก บางแห่งขีด
เส้นสีต่างๆ ที่พื้นเพื่อนําทางไปห้องตรวจปรากฏว่ามีเส้นสีต่างๆ มากมายจนคนไข้สบสนและบางแห่งเส้นสีต่างๆ จางหมดแล้ว
คนไข้จึงไปไม่ถึงห้องตรวจ ผมมักแนะนําให้เหล่าจิตอาสาที่มาบําเพ็ญประโยชน์ในรพ.เป็นคนพาไปดีกว่า เนื่องจากช่วยให้ความ
สะดวกและพูดคุยเป็นเพื่อนทําให้คนไข้ไม่เครียดด้วย
เรื่องเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องสําคัญ แต่ก็เป็นต้นเหตุให้เกิดความไม่พอใจนําไปถึงความขัดแย้งได้โดยง่าย เนื่องจาก
คนไข้เกิดอาการหงุดหงิดจากเหตุเหล่านี้ เมื่อมีป๎ญหาเกี่ยวกับการดูแลรักษาจึงทําให้ไม่พอใจมาก เป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้ง
ได้
นอกจากนี้ป๎ญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นกับคนไข้ ทั้งที่ไม่ได้เป็นจากการรักษาพยาบาลโดยตรง เช่น มีอยู่ครั้งหนึ่งคุณยาย
อายุ 70 กว่าปีปุวยเป็นมะเร็งเต้านม แพทย์ผ่าตัดรักษาแล้วและนัดมาให้เคมีบําบัดเป็นครั้งสุดท้าย ญาติจองห้องพิเศษได้
แล้วแต่กําลังทําความสะอาดจะต้องรออีก 2 ชม. จึงให้ไปรอที่หอผู้ปุวยสามัญแผนกศัลยกรรม ซึ่งมีคนไข้ล้นต้องเสริมเตียงแล้ว
พยาบาลจึงให้นอนพักชั่วคราวระหว่างรอห้องที่บริเวณระเบียงโดยใช้เตียงผ้าใบแบบพับได้ซึ่งได้มาตรฐาน (ขณะนั้นใช้กันในรพ.
ทุกแห่งเมื่อมีคนไข้มาก) พร้อมกับกําชับให้ลูกสาวเฝูาดูแล เนื่องจากพยาบาลต้องทํางานบริการคนไข้มากไม่สามารถดูแล
ตลอดเวลาได้
แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เนื่องจากคุณยายจะลุกเข้าห้องน้ําโดยไม่ได้รอลูกสาวที่เดินไปบริเวณอื่น แต่ลุก
ไม่ขึ้นเนื่องจากค่อนข้างอ้วนต้องนั่งบริเวณขอบเตียง ทําให้เตียงล้มเป็นเหตุให้กระดูกต้นขาข้างหนึ่งหัก ทางรพ.ได้ให้การดูแล
รักษาเป็นทีมตั้งแต่ต้น ทําการผ่าตัดใส่เหล็กจนหายดีและดูแลรักษาโรคมะเร็งเต้านมต่อจนให้เคมีบําบัดครบ ทั้งยังส่งไปทําการ
ฉายรังสีรักษาต่อที่ศูนย์มะเร็งลําปาง โดยมีผู้ช่วยเหลือคนไข้ช่วยดูแลตลอดการรักษา โดยทางรพ.ไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ต่อมา
เมื่อการรักษาสิ้นสุดลง ลูกๆ แสดงความไม่พอใจจึงไปฟูองศาลเพื่อเรียกค่าเสียหายจากทางรพ.เพิ่ม ทําให้ต้องเป็นคดีขึ้นศาล
นานพอควร แต่ในที่สุดศาลสั่งยกฟูองเนื่องจากรพ.ได้ให้การดูแลรักษาคนไข้อย่างดีที่สุดแล้ว และการตกเตียงก็ไม่ได้เกิดจาก
ทางรพ.ประมาทแต่อย่างใด
อีกรายหนึ่งเกิดขึ้นขณะผมเป็นผู้บริหารรพ.เช่นกัน มีคนไข้เพศหญิงอายุ 50 ปีเศษ แพทย์ให้การวินิจฉัยว่าเป็นไข้
ไทฟอยด์ รับเข้ารักษาในรพ.และอนุญาตให้อยู่ห้องพิเศษได้ เวลาตีห้าพยาบาลเข้าไปวัดสัญญาณชีพที่ห้องพบว่าคนไข้ไม่อยู่มีแต่
ลูกชายที่นอนเฝูาโดยเอาโซฟาสําหรับให้ญาตินอนขวางประตูทางออกไว้ ลูกชายไม่รู้เรื่องหรือได้ยินเสียงอะไรผิดปกติแสดงว่า
คนไข้ปีนออกไปทางระเบียงหลังห้องซึ่งไม่สูงมากนัก และห้องคนไข้อยู่บริเวณชั้นล่างด้วย ผมทราบข่าวเมื่อ6โมงเช้าจึงได้
ประสานงานกับทางตํารวจให้ช่วยออกค้นหา แจ้งให้สามีที่บ้านทราบซึ่งคนไข้ไม่ได้กลับบ้านหรือไปที่บ้านญาติแต่อย่างใด มีคน
พบเห็นคนไข้ในชุดรพ.เดินออกมานอกรพ.ตอนตีห้าไปทางริมแม่น้ําซึ่งอยู่ด้านข้างรพ. ผมสังหรณ์ใจว่าคนไข้คงจะโดดน้ําเพื่อฆ่า
ตัวตาย เมื่อสอบถามสามีและลูกจึงได้รับทราบว่าคนไข้บ่นอยากตาย และเคยพยายามมาแล้วแต่ไม่สําเร็จ แต่ไม่ได้บอกให้ทาง
รพ.ทราบ เพียงดูแลใกล้ชิดและปูองกันด้วยการให้ลูกชายนอนขวางประตูห้องไว้ ผมถือว่าเกิดความผิดพลาดในการซักประวัติ
และการประเมินสุขภาพจิตเมื่อแรกรับเพราะถ้ามีประวัติอยากฆ่าตัวตาย จะไม่อนุญาตให้นอนห้องพิเศษแต่จะต้องอยู่ในการ
ดูแลของพยาบาลอย่างใกล้ชิด
ผมได้ประสานงานกับทางองค์กรปกครองท้องถิ่นด้วย เพื่อให้ทางอาสาสมัครช่วยค้นหา จนกระทั่งบ่ายวันนั้นจึงได้พบ
ศพคนไข้ริมฝ๎่งน้ําห่างจากรพไปหลายกิโลเมตร ญาติไม่ติดใจเอาความรพ.เพราะเห็นว่าไม่ใช่ความผิดของรพ. โดยตรงและทาง
รพ.ก็ช่วยดําเนินการอย่างเต็มที่ ผมได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ได้ขอร้องให้ทางสื่อมวลชนไม่เสนอข่าวเนื่องจากจะทําให้
คนไข้ซึ่งเป็นครูโรงเรียนมีชื่อ มีลูกศิษย์มากมายและทางครอบครัวเสื่อมเสียได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มาเยี่ยมบริเวณที่เกิดเหตุ
และขอให้ผมติดซี่กรงบริเวณระเบียงทุกชั้น ผมได้ชี้แจงไปว่าห้องพิเศษนั้นควรมีบรรยากาศที่ดีไม่ใช่เหมือนอยู่ในกรง ผมจึง
เสนอว่าจะทําไม้ระแนงเตี้ยๆ ที่บริเวณระเบียงอย่างน้อยก็ทําให้ปีนลําบากขึ้น และปลูกไม้เลื้อยหรือแขวนกล้วยไม้จะทําให้
บรรยากาศเหมาะกับการพักฟื้นไข้ และจะกําชับให้เจ้าหน้าที่รพ.ซักประวัติตลอดจนประเมินสุขภาพจิตคนไข้ให้รัดกุมขึ้น