Page 11 - การดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจบนพื้นฐานของความรู้
P. 11

11

























                 "ความสุขที่แท้มีอยู่แต่ในงาน" เป็นคําของท่านพุทธทาสที่พร่ําสอนให้เรามีความสุขกับงานที่ทําทั้งยังสอนอีกว่า
         "ถ้าเราท างานเพื่อเงิน ความสุขจะเกิดก็ต่อเมื่อได้รับเงินตอบแทน แต่ถ้าเราท างานเพื่องาน ความสุขจะเกิดตั้งแต่เราเริ่ม
         ท างาน"
                วันก่อนมีน้องๆ พยาบาลมาขอพบเพื่อคุยเรื่องเงินเดือน และค่าล่วงเวลาโดยบอกว่าเข้าใจว่าตามที่ผอ.บอก เงินไม่ใช่สิ่ง

         สําคัญที่สุด แต่ก็ถือว่ามีความจําเป็นกับชีวิตเหมือนกัน โดยเฉพาะเงินที่ควรได้ตามสิทธิ ผมฟ๎งแล้วก็ดีใจที่น้องๆ ทุกคนยังมี
         ความสุขจากการทํางานในรพ. เรื่องเงินนั้นจริงอยู่ว่ามีความจําเป็น แต่เราก็คงต้องรู้จักใช้ให้เป็นจึงจะเกิดความสุข บางคนใช้จน
         เกินตัวทําให้เป็นหนี้ต้องเอาเงินอนาคตมาใช้ เมื่อถึงสิ้นเดือนเหลือเงินไม่เท่าไหร่บางทีต้องไปกู้หนี้เพิ่มอีก ไม่มีวันสิ้นสุด

                วันนั้นผมฟ๎งแล้วป๎ญหาเกิดกับระบบการจ่ายเงินและข้อมูลรายละเอียดในการได้รับค่าตอบแทน จึงได้ดําเนินการแก้ไข
         ป๎ญหาให้ ผมเห็นด้วยว่าความยุติธรรมและโปร่งใสนั้นสําคัญที่สุดโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับเรื่องเงิน
                ผมคิดอยู่เสมอว่าคนเราถ้าใจเป็นสุขเราก็พร้อมที่จะทํางานบริการให้คนอื่น ตรงกันข้ามเมื่อใจเราเป็นทุกข์การจะไป

         ทํางานเพื่อให้บริการคนอื่นย่อมยากที่จะมีประสิทธิภาพเต็มที่ ผมจึงคํานึงถึงความสุขในครอบครัวต้องมาก่อนเสมอ ดังที่ผมมี
         ความเชื่อมั่นว่าความกตัญํูเป็นเครื่องหมายของคนดี คนใดที่ไม่มีความกตัญํูต่อพ่อแม่จะให้เชื่อว่าเป็นคนดีนั้นคงเป็นไปได้
         ยาก ผมจึงเน้นอยู่เสมอให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับต้องดูแลพ่อแม่ให้ดี แม้ว่าจะอยู่ไกลกันก็ต้องหมั่นส่งข่าวสื่อสารถึงกันอย่าง

         สม่ าเสมอ แม้ไม่รู้จะพูดอะไรเพียงบอกถึงความรักความห่วงใยที่มีต่อท่านก็รู้สึกว่าเป็นสุขแล้ว เหมือนที่ผมโทรถึงคุณแม่ยาย
         ทุกเช้าได้รับพรที่ท่านให้ "good day" ทุกครั้งทําให้ใจเรามีความสุขพร้อมที่จะทํางานเพื่อคนอื่นทันที
                ทุกครั้งที่ผมถามว่าท่านต้องการอะไรหรือไม่คําตอบก็คือพอแล้วอายุพอถึง 80 ปี ก็รู้สึกว่าไม่อยากได้อะไรเพียงแต่ให้รู้

         ว่าลูกหลานมีความสุขก็พอแล้ว และที่สําคัญที่สุดก็คือขอให้ตัวเองไม่เป็นภาระให้ลูกหลาน แม้ผมจะพร่ําบอกทุกครั้งว่าเป็น
         หน้าที่ของลูกหลานอยู่แล้วที่จะได้ตอบแทนพระคุณอันยิ่งใหญ่ของท่านก็ตาม ช่างเป็นความรักอันยิ่งใหญ่ดังคําสอนที่ว่า
         "ความรักของแม่นั้น คือ รักที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน"
                ผมยังจําได้แม่นเมื่อคราวที่คุณย่ายังมีชีวิตอยู่และปุวยเป็นอัมพาต ทุกเช้าตี 5 คุณพ่อผมจะตื่นเพื่อเช็ดตัวให้คุณย่า

         พร้อมประแปูงแต่งตัวให้เสร็จปูอนข้าวแล้วอุ้มนั่งรถเข็นรอใส่บาตรที่หน้าบ้านทุกเช้า เมื่อผมกลับไปเยี่ยมบ้านคุณพ่อจะบอก
         เสมอให้รักษาหรือทําทุกอย่างให้ย่ามีชีวิตอยู่ คุณพ่อไม่ถือว่าเป็นภาระแต่รู้สึกเป็นสุขที่ได้ปรนนิบัติท่าน แต่ทุกครั้งที่ได้คุยกับย่า

         ท่านจะบอกผมทุกครั้งว่าไม่ต้องรักษาหรือช่วยอะไรท่านอีก ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วรู้สึกสงสารที่เป็นภาระให้พ่อผม เห็นไหมครับ
         ว่าสองความรู้สึกที่แตกต่างแต่ก็เป็นความรักความผูกพันของแม่ลูกที่ยิ่งใหญ่
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16