Page 7 - การดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจบนพื้นฐานของความรู้
P. 7
7
บ่อยครั้งที่ผู้ปุวย และญาติหลังจากได้ฟ๎งคําอธิบายถึงโรคที่ปุวย และแนวทางการรักษา เมื่อแพทย์ถามความเห็นว่าจะ
เลือกรักษาหรือไม่ จะรักษาด้วยแนวทางใด มักจะตอบว่า “แล้วแต่คุณหมอ” ทําให้หมอบางคนไม่รู้จะรักษาต่ออย่างไร หรือจะ
ทําอย่างไรดี
ทุกครั้งที่ผมเจอคําจอบแบบนี้ ผมมักจะบอกผู้ปุวยว่าถ้าเป็นญาติของหมอคงจะทําอย่างนี้นะ การที่เราคิดว่าผู้ปุวยเป็น
ญาติ หรือคนสนิท คนที่เรารู้จักดี จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น เหมือนเช่นคนงานเปลเองที่กําลังเข็นผู้ปุวยไปส่งยังที่ต่างๆ ถ้า
ใครยังไม่เคยนอนบนเปลนอนแล้วให้เข็นไปตามที่ต่างๆ จะไม่รู้หรออกว่ามันน่ากลัวเพียงใด ทั้งกลัวตก และรู้สึกเวียนหัวเวลา
เปลเหวี่ยงตอนเลี้ยว หรือสะดุ้งเจ็บเวลาที่พื้นเปลี่ยนระดับโดยเฉพาะในยามที่เรากําลังเจ็บปุวย หรือกังวลเรื่องการเจ็บปุวยของ
เรา แต่ถ้าพนักงานเข็นเปลคนนั้นคิดว่าผู้ปุวยบนเปลเป็นญาติของตนเอง เราคงจะต้องเข็นด้วยความระมัดระวังนุ่มนวลเป็น
ที่สุด เวลาจะเลี้ยวหรือพื้นต่างระดับก็จะบอกให้ผู้ปุวยเตรียมตัวไว้ก่อนจะได้ไม่ตกใจ บางครั้งอาจชวนคุยเรื่องที่สนุกๆ ทําให้
ผู้ปุวยคลายกังวลลงได้ เพียงแค่นี้ผู้ปุวยก็จะมีความสุขได้แม้กําลังอยู่ในรพ. เราก็จะชื่อว่าให้บริการด้วยใจ
ผมจะพูดบ่อยๆ ว่าพวกเรานั้นโชคดีได้ทํางานเป็นแพทย์ พยาบาลหรือเจ้าหน้าที่รพ. ที่มีหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้ปุวย
ทํางานเลี้ยงชีพพร้อมกับได้บุญไปในเวลาเดียวกัน เนื่องจากงานของเราเป็นการช่วยให้ผู้อื่น พ้นทุกข์จากโรคภัยไข้เจ็บ เราจึง
ควรทําให้ดีที่สุดอย่างเต็มความสามารถ และด้วยความเต็มใจ ใครจะรู้ว่าสักวันหนึ่งเราอาจเป็นผู้ปุวยเอง และในยามนั้นเราย่อม
อยากได้แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ที่พร้อมให้การดูแลรักษาเราด้วยใจบริการที่เหมือนเราเป็นญาติคนหนึ่ง เราจึงควรทําหน้าที่
ของเราให้ดีที่สุดเพื่อผู้ปุวย โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันที่เราเจ็บปุวยเองเสียก่อน
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่คุณหมออายุรกรรมคนหนึ่ง โพสต์ข้อความลงในโซเชียลมีเดีย (Social media) ขององค์กรแพทย์ว่า
“พวกเราลองมาคิดเล่นๆ ดูว่า ถ้าเราเจ็บป่วยเราอยากได้หมอแบบไหนมารักษา” ปรากฏว่าในเวลาไม่นานมีคุณหมอ
หลากหลายสาขาเข้ามาให้ความคิดเห็นมากมาย แต่ละคนต่างก็ต้องการหมอที่ใจเย็น เก่ง อัธยาศัยดี พูดจาอธิบายให้เข้าใจ
ได้ง่าย มีเวลาให้กับผู้ปุวย มีความเห็นอกเห็นใจผู้ปุวยและอื่นๆ อีกมา ผมจึงโพสต์เข้าไปให้ความเห็นว่า “แล้วท าไมเราไม่เป็น
หมอคนนั้นละครับ”