Page 8 - แนวทางปฏิบัติ การดูแลผู้ป่วยวิกฤต ในสถานการณ์การระบาดของ COVID-19
P. 8

ตาราง 3 Aerosol Generating Procedures

                      • Tracheal intubation
                      • Oxygen mask

                      • Tracheotomy
                      • Oropharyngeal suction
                      • Non-invasive ventilation

                      • Manual ventilation before intubation
                      • Sputum collection

                      • Defibrillation
                      • Chest compression (CPR)
                      • NG tube insertion



                   กรณีส่งต่อผู้ป่วยวิกฤตระหว่ำงโรงพยำบำล นอกจำกกำรประสำนส่งต่อข้อมูลทำงคลินิกแล้ว แนะน�ำให้มีกำรส่ง

            ต่อผลกำรตรวจคัดกรอง SARS-CoV-2 หำกท�ำแล้ว กำรสั่งตรวจคัดกรอง SARS-CoV-2 ให้พิจำรณำจำกสถำนกำรณ์กำร
            ระบำดในพื้นที่ หำกภำวะควำมเร่งด่วนของควำมเจ็บป่วยของผู้ป่วยสำมำรถรอได้ ควรท�ำกำรตรวจ rRT-PCR หรืออำจ
            จะรอผลตรวจทำงไวรัสวิทยำก่อนที่ท�ำกำรส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยำบำลปลำยทำง  ให้ประเมินระหว่ำงควำมปลอดภัย

            ทำงกำรแพทย์ของผู้ป่วยกับควำมเสี่ยงของผู้ป่วยอื่นและบุคคลำกรทำงกำรแพทย์  เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับกำรรักษำโดยเร็ว
            และบุคลำกรทำงกำรแพทย์มีควำมปลอดภัย ควรมีกำรประสำนที่ดีระหว่ำงโรงพยำบำลโดยไม่ให้ขั้นตอนกำรตรวจทำง

            ไวรัสวิทยำนี้เป็นอุปสรรคในกำรส่งต่อ
                   (2) ขณะที่รอผลตรวจทำงไวรัสวิทยำ ควรจัดพื้นที่เฉพำะในกำรดูแลผู้ป่วยก่อนจะท�ำกำรย้ำยผู้ป่วยเข้ำหออภิบำล
            เพื่อป้องกันกำรกระจำยเชื้อไปสู่ผู้ป่วยอื่น  ซึ่งสำมำรถพิจำรณำทำงเลือกตำมควำมเหมำะสมของบริบทและทรัพยำกร

            ของแต่ละโรงพยำบำล เช่น
                      (2.1) ในกรณีที่มีหออภิบำลมำกกว่ำหนึ่งแห่ง อำจพิจำรณำปรับบำงหออภิบำล ให้ได้ตำมมำตรฐำน

            airborne infection isolation room (AIIR) เพื่อใช้เป็น PUI-ICU เพื่อแยกผู้ป่วยที่รอผลตรวจ
                      (2.2) ในกรณีที่ไม่มีควำมพร้อมและทรัพยำกรเพียงพอที่จะจัดให้มี PUI-ICU ควรจัดให้มี isolation zone
            หรือใช้ห้องพิเศษที่อำจมีกำรวำงระบบ modified AIIR เพื่อเพิ่มประสิทธิภำพกำรควบคุมกำรแพร่กระจำย

                      (2.3) ในกรณีที่ไม่มีทรัพยำกรในกำรดูแลผู้ป่วยวิกฤต หรือ อยู่ในระหว่ำงรอกำรส่งต่อ ควรพิจำรณำจัดพื้นที่
            Isolation corner ที่เว้นระยะห่ำงจำกผู้ป่วยอื่นอย่ำงน้อย 1.5 เมตร และควรเป็นที่ที่มีกำรระบำยอำกำศดี

                      ในกำรดูแลรักษำพยำบำล  บุคลำกรทำงกำรแพทย์ต้องปฏิบัติตำมหลัก  standard  precautions  จนกว่ำ
            จะได้รับผลตรวจทำงไวรัสวิทยำ  ควรสวมอุปกรณ์ปกป้องตำมค�ำแนะน�ำกำรใช้อุปกรณ์ป้องกันกำรติดเชื้อส่วนบุคคล
            (personal protective equipment, PPE) (เอกสำรแนบที่ 2)

                   (3) หำกผู้ป่วยวิกฤตทำงเดินหำยใจมีอำกำรที่อยู่ในข่ำยสงสัย/เสี่ยงต่อกำรติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 ตำมตำรำง 1
            ควรให้กำรดูแลตำมแนวทำงของ Patient Under Investigation: PUI ตำม ข้อ ข. (แนวทำงปฏิบัติในกำรดูแลผู้ป่วย

            วิกฤตที่เป็น PUI) จนกว่ำจะทรำบผลกำรตรวจคัดกรองทำงไวรัสวิทยำ หำกผลกำรตรวจทำงไวรัสวิทยำพบว่ำผู้ป่วยติดเชื้อ
            COVID-19 ให้กำรดูแลตำมแนวทำง ข้อ ค. (แนวทำงปฏิบัติในกำรดูแลผู้ป่วยวิกฤตที่ติดเชื้อ COVID-19)








             8             แนวทางปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วยวิกฤตในสถานการณ์การระบาดของ COVID-19
   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13