Page 3 - แนวทางปฏิบัติ การดูแลผู้ป่วยวิกฤต ในสถานการณ์การระบาดของ COVID-19
P. 3

แนวทางปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วยวิกฤตในสถานการณ์การระบาดของ COVID-19



                   คณะท�ำงำนฯเสนอแนะว่ำโรงพยำบำลควรมีคณะกรรมกำรกลำงที่รับผิดชอบในกำรจัดระบบบริหำร

            หออภิบำลของโรงพยำบำล  โดยเฉพำะโรงพยำบำลที่มีหออภิบำลหลำยประเภท  เพื่อสำมำรถจัดสรรทรัพยำกรในกำร
            ดูแลผู้ป่วยวิกฤตที่สถำนกำรณ์กำรระบำดของ  COVID-19  รวมทั้งกำรปรับเปลี่ยนแผนงำนตำมสถำนกำรณ์เป็นระยะๆ
            ค�ำนึงถึงสมดุลกำรให้บริกำรกับจ�ำนวนของผู้ป่วยที่มีควำมจ�ำเป็นมำกและสงวนกำรใช้ทรัพยำกรที่มีอยู่จ�ำกัดอย่ำง

            เหมำะสมส�ำหรับกลุ่มผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ  2019  และกลุ่มผู้ป่วย  Non-COVID-19  และยังลดควำมขัดแย้ง
            ระหว่ำงผู้ป่วยกับบุคลำกรทำงกำรแพทย์

                   เพื่อให้สำมำรถรองรับต่อสถำนกำรณ์กำรระบำดของ COVID-19 โรงพยำบำลควรมีกำรเตรียมกำรทั้งด้ำน
            บุคลำกร กระบวนกำร และสถำนที่ เพื่อสำมำรถให้กำรดูแลผู้ป่วยได้อย่ำงปลอดภัย ดังนี้
                   1. กำรเตรียมกำรขั้นพื้นฐำนด้ำนควำมปลอดภัยของบุคลำกรทุกส่วนของโรงพยำบำล

                     1.1 หน่วยงำนต้องมีกระบวนกำรที่ท�ำให้เกิดควำมมั่นใจได้ว่ำ อัตรำกำรท�ำควำมสะอำดมืออย่ำงถูกต้องของ
                         บุคลำกร ต้องมำกกว่ำร้อยละ 80 อย่ำงต่อเนื่องสม�่ำเสมอ

                     1.2 หน่วยงำนต้องมีกระบวนกำรที่ท�ำให้เกิดควำมมั่นใจได้ว่ำบุคลำกรสำมำรถใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล
                         (personal protective equipment, PPE) อย่ำงถูกต้อง และมีกำรใช้อย่ำงสม�่ำเสมอ
                     1.3 บุคลำกรของหน่วยงำนต้องปฏิบัติตำมมำตรฐำนกำรป้องกันโรคแม้ในช่วงชีวิตส่วนตัว คือ social &

                         physical distancing, mask และ hand hygiene
                   2. กำรเตรียมบุคลำกรเพื่อกำรดูแลผู้ป่วยวิกฤติในสถำนกำรณ์กำรระบำดของ COVID-19 บุคลำกรกลุ่มนี้

                     ควรมีควำมสำมำรถในกำรดูแลผู้ป่วยวิกฤติ  โดยเฉพำะด้ำนระบบทำงเดินหำยใจ  และยังต้องมีควำมรู้ด้ำน
                     กำรป้องกันกำรติดเชื้อในระดับที่สำมำรถปฏิบัติได้ถูกต้อง  และมีวินัยในกำรปฏิบัติตนตำมหลักกำรป้องกัน
                     กำรติดเชื้อ  ตลอดจนกำรรักษำสุขภำพทั่วไป  หำกจัดสรรได้  ควรเลือกผู้ที่ไม่มีควำมเสี่ยงต่อกำรเกิดภำวะ

                     แทรกซ้อนรุนแรงหำกเกิดกำรติดเชื้อเป็นผู้ปฏิบัติงำนในพื้นที่นี้
                   3. ระบบบริหำรหออภิบำล ควรมีกำรจัดสรรเขตพื้นที่ของหออภิบำลไว้ส�ำหรับผู้ป่วยที่เหมำะสมกับสภำวะ

                     ของผู้ป่วย  แนะน�ำว่ำควรมีหออภิบำลส�ำหรับผู้ป่วย  COVID-19  (COVID-ICU)  แยกต่ำงหำก  หำกท�ำได้/
                     หออภิบำลส�ำหรับผู้ป่วย PUI (PUI-ICU) และหออภิบำลผู้ป่วยทั่วไป (Non-COVID ICU) ตำมบริบทของโรง
                     พยำบำล โดยหำกไม่สำมำรถจัดแยก ICU ได้ ก็ต้องจัดกำรให้ระบบกำรระบำยอำกำศของห้องส�ำหรับดูแลผู้

                     ป่วยเหล่ำนี้เป็นอิสระจำกกัน และจัดให้อำกำศไหลไปทำงเดียว ไม่ย้อนกลับมำสู่พื้นที่อื่นของหอผู้ป่วย
                   4. ควรจัดให้มี physical distancing ในหออภิบำล โดยจัดระยะห่ำงระหว่ำงเตียงผู้ป่วยห่ำงกัน อย่ำงน้อย 1.5 เมตร

                   5. ห้องหรือหออภิบำลส�ำหรับผู้ป่วยวิกฤตทั่วไป (Non-COVID ICU) ผู้บริหำรและทีมงำนที่เกี่ยวข้องควร
                     ส�ำรวจพื้นที่ปฏิบัติกำรและปรับกระบวนกำรท�ำงำนภำยใน ไม่เฉพำะกำรดูแลผู้ป่วยวิกฤตส�ำหรับผู้ป่วย
                     ทั่วไป  แต่ควรเตรียมแผนกำรไว้ที่ต้องดัดแปลงพื้นที่และกระบวนกำรท�ำงำนไว้ หำกเมื่อเกิดกำรระบำด

                     ใหญ่ จะสำมำรถปรับแผนได้ทัน เพื่อควำมปลอดภัยของบุคลำกรทำงแพทย์จำกกำรติดเชื้อ SARS-CoV-2
                   6. ในระยะกลำงถึงระยะยำว แนะน�ำให้แต่ละโรงพยำบำลปรับระบบระบำยอำกำศภำยในห้องผู้ป่วยให้อำกำศ

                     ไหลไปในทิศทำงเดียว โดยมีทิศทำงจำกบุคลำกรไปยังผู้ป่วย และมี air exchange ที่เพียงพอ อย่ำงน้อย 6
                     air exchange ต่อชั่วโมง มีระบบดูดอำกำศ เป็นต้น








                                                                                                            3
                        แนวทางปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วยวิกฤตในสถานการณ์การระบาดของ COVID-19
   1   2   3   4   5   6   7   8