Page 36 - ถาม - ตอบ สารพันปัญหาข้อกฎหมายการบริการทางการแพทย์
P. 36
ก็มีบทบัญญัติในท านองเดียวกัน จึงถือได้ว่าตราบใดที่ยังไม่มีค าพิพากษาว่า
กระท าความผิด ยังต้องถือว่า ผู้ถูกกล่าวหาหรือจ าเลยเป็นผู้บริสุทธิ์” ดังนั้น ต้อง
ถือว่า ทุกคนยังเป็นผู้บริสุทธิ์ การเป็นผู้ป่วยคดีก็ต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเท่า
เทียมกัน การเก็บเวชระเบียนผู้ป่วยเป็นการบริหารจัดการของโรงพยาบาล หาก
โรงพยาบาลเห็นว่าการแยกเก็บเวชระเบียนเฉพาะผู้ป่วยคดี จะท าให้การด าเนินการ
สะดวกขึ้น ก็สามารถท าได้ แต่โดยหลักไม่ควรแยก เพราะอาจถูกมองว่า เป็น
การแบ่งแยกเพราะเหตุถูกคดีอาญาหรือเกี่ยวข้องกับคดีอาญา ซึ่งอาจท าให้ผู้ป่วย
ต้องเสียหายต่อชื่อเสียงก็ได้ ส่วนการประทับตราเป็นผู้ป่วยคดีลงในเวชระเบียนนั้น
ไม่ควรกระท าเพราะจะท าให้เห็นการแบ่งแยกชัดขึ้น รวมทั้งอาจเป็นการละเมิด
สิทธิของผู้ป่วย และไม่มีกฎหมายหรือระเบียบราชการใด ให้สามารถท าได้
กฎหมายเกี่ยวกับผู้ป่วยในเรื่องเวชระเบียน หลักส าคัญคือ การคุ้มครอง
ข้อมูลด้านสุขภาพ ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๐
ซึ่งบัญญัติว่า มาตรา ๗ ข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล เป็นความลับส่วนบุคคล
ผู้ใดจะน าไปเปิดเผยในประการที่น่าจะท าให้บุคคลนั้นเสียหายไม่ได้ เว้นแต่
การเปิดเผยนั้นเป็นไปตามความประสงค์ของบุคคลนั้นโดยตรง หรือมีกฎหมาย
เฉพาะบัญญัติให้ต้องเปิดเผย แต่ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ผู้ใดจะอาศัยอ านาจหรือสิทธิ
ตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ หรือกฎหมายอื่นเพื่อขอเอกสาร
เกี่ยวกับข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลที่ไม่ใช่ของตนไม่ได้
ดังนั้น เวชระเบียนเป็นเอกสารส าคัญเพราะเป็นเอกสารแสดงถึงการรักษา
พยาบาลผู้ป่วย ข้อมูลในเวชระเบียนเป็นความลับ การดูแลเวชระเบียนผู้ป่วย
ต้องเท่าเทียมกันโดยไม่ต้องค านึงว่า เป็นผู้ป่วยธรรมดาหรือผู้ป่วยคดี
ถาม-ตอบ สารพันปัญหาข้อกฎหมาย การบริการทางการแพทย์ ๒๘